สิว (Acne Vulgaris) เป็นภาวะที่พบบ่อยมากๆ โดยเฉพาะในวัยรุ่น 75% - 95% ต้องเคยมีปัญหาเรื่องสิว ส่วนในวัยผู้ใหญ่นั้นพบว่า12 % ของผู้หญิงยังมีสิวจนอายุ 44 ปี แต่ผู้ชายวัยนี้พบสิวเพียง 3% เท่านั้น

สิวเกิดขึ้นได้อย่างไร?
     
สิวเป็นภาวะที่มีปัจจัยร่วมมากมาย เช่น ฮอร์โมน พันธุกรรม แต่มีสาเหตุหลักๆอยู่ 3 อย่าง ดังนี้ 

1.    ต่อมน้ำมันทำงานมากผิดปกติ (Sebaceous Gland Hyperactivity) การสร้างน้ำมัน (Sebum) 
ของต่อมไขมัน ถูกควบคุมโดยฮอร์โมนเพศ Testosterone ซึ่งจะสูงมากในช่วงวัยรุ่น เมื่อน้ำมันถูกสร้างมาก
การไหลออกไปสู่ผิวด้านนอกไม่สมดุล จะทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย 

2.    การผลัดเซลล์ผิวในรูขุมขนผิดปกติ (Follicular Hyperkeratinization) ในคนที่มีสิวพบว่าเซลล์เหล่านี้
มักติดกันเป็นกลุ่มก้อน เมื่อถูกผลัดออกมาจะค้างอยู่ภายในโพรงขน จากสาเหตุทั้งสองข้อจะทำให้สิวอุดตัน 
หรือ คอมีโดน (Comedone) 

3.    แบคทีเรีย ชื่อ Propionibacterium acnes (P. acnes) ทำให้เกิดการอักเสบเนื่องจากก้อนของเซลล์ผิว
ผสมกับน้ำมันเป็นแหล่งอาหารอย่างดี ดึงดูดให้แบคทีเรีย P.acnes จำนวนมากเข้ามาที่คอมีโดน จากนั้นจะย่อย
สลายน้ำมันกลายเป็นกรดไขมันอิสระ และมีการหลั่งสารอักเสบออกมา ทำให้เกิดการอักเสบของสิวตามมา
ลักษณะต่างๆของสิว 

สิวอุดตัน (Comedone) มี 2 ชนิดคือ สิวอุดตันหัวขาว (ปิด) และ สิวอุดตันหัวดำ (เปิด) สิวอักเสบ 
(Acne Vulgaris) มีได้หลายลักษณะตามความรุนแรงของการอักเสบ ตั้งแต่ Papules (ตุ่มนูนแดงเจ็บ) 
Pustules (ตุ่มหนอง) Nodules (ก้อนอักเสบที่ใหญ่และลึกขึ้น) ถ้าการอักเสบยังดำเนินต่อไป ผนังของ
โพรงขนถูกทำลายแตกออก แบคทีเรียและเศษเซลล์หลุดออกมาอยู่ที่ผิวชั้นใน เกิดเป็นถุงอักเสบ
ขนาดใหญ่และลึกเรียกว่า Cystic Acneทำให้เกิดแผลเป็นถาวรได้ 

How acne develops 

A normal hair and sebaceous gland (1) can become partially blocked (2). Bacteria called
P.acnes live on the sebum and produce fatty acids. The body responds by blocking the 
gland’s exit to the skin (3). Sometimes the mixture of hair protein, oil and fatty acids 
damages the walls of the follicle and causes inflammation (4). 

การรักษาสิวทำได้อย่างไร? 

การรักษาสิว (Acne) ให้ได้ผลนั้น ต้องแก้ไขปัจจัยสาเหตุหลายอย่างไปพร้อมๆกัน ได้แก่ ลดการสร้างน้ำมัน
จากต่อมน้ำมัน (sebaceous gland) ลดการอุดตันคั่งค้างของเศษเซลล์และไขมันในรูขุมขน ร่วมกับ
กำจัดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการอักเสบ จึงต้องใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีและรวดเร็ว 
และยังเป็นการป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นอีกด้วย 

•    ยาทา เช่น กรดวิตามิน เอ BP ยาปฏิชีวนะ กรดซาลิซิลิค กรดอะเซลิอิค 

•    ยารับประทาน เช่น ยาปฏิชีวนะ ยากรดวิตามิน เอ 

•    การผลัดเซลล์ชั้นนอก เพื่อเร่งขจัดการอุดตัน เช่น AHA Peel, Silk Peel , Diamond Peel , OxyJet Peel 

•    แสงสีฟ้า (Blue Light) เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ใช้แทนการรับประทานยาปฏิชีวนะ

•    การใช้เลเซอร์เพื่อรักษาสิว เช่น CoolTouch 1320 Laser หรือ Smoothbeam 1450 Laser 
เพื่อลดสิวอักเสบ ขนาดใหญ่และลดการทำงานของต่อมไขมัน V-Beam 595 Laser ลดสิวอักเสบและรอย
แดงจากสิวได้ดี Fraxel Laser รุ่น re:store รักษาแผลเป็นหลุมหรือแผลนูนที่เกิดจากสิว Ellipse I2PL
ลดรอยดำจากสิว 

•    อื่นๆ เช่นการฉีดยาสเตียรอยด์อ่อนๆ เพื่อลดการบวมอักเสบของสิวที่มีขนาดใหญ่หรือเป็นถุงซิสต์ ...
แต่ไม่ควรเลือกใช้เป็น อย่างแรกและไม่ควรฉีดซ้ำบ่อย